FeelWorld Seetec 4K156-9HSD-384 15.6 Inch 4K 3840X2160 Director Broadcast Monitor SDI 4 HDMI Input Quad Display

DESCRIPTION OVERVIEW SPECIFICATIONS จุดเด่นผลิตภัณฑ์ เฟรมดีไซน์พิเศษเพื่อลดขอบมืด ช่วง ND จาก ND3 ถึง ND400 ที่จับสำหรับการหมุนที่แม่นยำ Motion Blur จากการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ / รถไฟ เอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวที่ราบรื่นในน้ำตก เครื่องหมายบอกความเข้ม HOYA Variable Density II ฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้* ความเข้มข้น 1.5 – 9 f-stops (ND3-400) แตกต่างจากฟิลเตอร์ HOYA Variable Density รุ่นก่อนด้วยดีไซน์เฟรมแบบใหม่ และมาพร้อมด้ามจับกระชับมือ เพิ่มความสะดวกสบายในการหมุนให้ง่ายขึ้นเพื่อการทำงานที่ดีขึ้น * หรือเรียกอีกชื่อคือ fader ND ฟิลเตอร์ Variable Density จำเป็นหรือไม่? ฟิลเตอร์ Variable density ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากสามารถปรับความเข้มข้นได้ ใช้แทนฟิลเตอร์ ND แบบความเข้มข้นเดี่ยวได้ทั้งชุด ประหยัดงบประมาณและพื้นที่กระเป๋า ในการถ่ายภาพนิ่ง ช่างภาพจะใช้ฟิลเตอร์ Variable density ลดความเร็วชัตเตอร์เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการในกรณีที่ไม่สามารถลดความเร็วชัตเตอร์ได้เนื่องจากข้อจำกัดของกล้อง หรือใช้เพิ่มเอฟเฟกต์การละลายฉากหลังและโบเก้ ในสภาพแสงจ้า โดยที่ภาพไม่โอเวอร์ (overexposure) สำหรับการถ่ายวีดิโอ Variable density จะใช้เพื่อรักษาความเร็วชัตเตอร์ให้เหมาะสมกับค่าเฟรมเรท (2 เท่าของเฟรมเรท) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุด เนื่องจากการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่มากเกินไปจะทำให้ภาพขาดโมชั่นเบลอและดูแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติ ภาพตัวอย่างด้านล่างแสดงความแตกต่างระหว่างผลลัพธ์ที่เกิดกับภาพนิ่งและวีดิโอ โดยเมื่อใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ภาพนิ่งแต่ละภาพจะเบลอ แต่เมื่ออยู่ในรูปแบบของวีดิโอการเบลอของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวของแต่ละเฟรมนั้นจะเชื่อมต่อไปยังเฟรมถัดไป ทำให้เคลื่อนไหวเป็นเนื้อเดียวกันและดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ในทางกลับกันเมื่อใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงวัตถุในภาพจะคมชัดและหยุดนิ่ง เมื่อเรียงเป็นเฟรมวีดิโอวัตถุจะแยกจากกันชัดเจนทำให้การเคลื่อนไหวดูแข็งไม่ต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ ช่างภาพสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ให้เหมาะสมเพื่อสร้างเอฟเฟกต์โมชั่นเบลอที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติได้อย่างง่ายดายด้วยฟิลเตอร์ Variable density * เมื่อปรับไปที่ความเข้มข้นสูงสุดจะปรากฏกากบาทขึ้นในภาพ ซึ่งเป็นปกติของฟิลเตอร์ Variable ND คุณสมบัติเด่น HOYA Variable Density II มีโครงสร้างเฟรมแบบหมุนได้ที่ประกอบด้วย เฟรมด้านหน้าที่หมุนได้ 360° กับเฟรมด้านหลังสำหรับยึดกับหน้าเลนส์ โดยเฟรมที่หมุนได้จะกว้างกว่าเฟรมด้านหลังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดขอบมืดเมื่อใช้กับเลนส์มุมกว้าง ปิดด้วยฝาครอบเลนส์ได้ HOYA Variable Density II สามารถใช้ฝาครอบเลนส์ปิดได้ แต่ด้วยโครงสร้างแบบพิเศษจึงต้องใช้ฝาครอบเลนส์ที่ขนาดใหญ่กว่าฟิลเตอร์ 1 ขนาด ตัวอย่างเช่น HOYA Variable Density II ขนาด 77 มม. สามารถใช้ฝาครอบเลนส์ขนาด 82 มม. ได้ ประโยชน์และการใช้งาน การเปิดรับแสงยาวนาน HOYA Variable Density II มอบอิสระในการปรับความเร็วชัตเตอร์เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่ช่างภาพต้องการโดยไม่ต้องเปลี่ยนค่ารูรับแสง เหมาะสำหรับสร้างเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลให้ภาพถ่าย เช่น ภาพน้ำตก แม่น้ำ การเคลื่อนที่ของวัตถุ ยานพาหนะ หรือสร้างเทคนิคการแพนกล้องเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้แก่วัตถุ การเปิดรูรับแสงกว้าง เปิดรูรับแสงกว้างในสภาพแสงจ้าเพื่อลดความชัดลึกของภาพ ช่วยเน้นจุดโฟกัสไปที่วัตถุที่สนใจมากขึ้น ป้องกันการเปิดรับแสงมากเกินไป บางสภาพแสงแม้จะใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/8000 วินาที ในการเปิดรูรับแสงกว้าง f/1.4 หรือ f/1.2 ก็ยังอาจทำให้ภาพโอเวอร์ (overexposure) ได้ หลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ด้วยการใช้ HOYA Variable Density II ลดปริมาณแสงส่วนเกินเพื่อการเปิดรับแสงที่พอดี ถ่ายวีดิโอสวยแบบ Cinematic look ฟิลเตอร์ Variable Density เป็นฟิลเตอร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับช่างภาพสายวีดิโอ หรือผู้ผลิตคอนเทนต์วีดิโอ แม้ในสภาพแสงจ้าช่างภาพก็สามารถตั้งค่าการเปิดรับแสงที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ความเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลแบบ Cinematic look หมายเหตุ : ช่วงการรับแสง (exposure range) และการส่งผ่านแสง (light transmittance) ที่ใช้งานได้จริงอาจแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เมื่อปรับฟิลเตอร์เข้าใกล้ความเข้มสูงสุด จะเกิดกากบาทขึ้น ซึ่งเป็นปกติของฟิลเตอร์ Variable ND